[One Shot] This I Promise You ,, YULSIC - [One Shot] This I Promise You ,, YULSIC นิยาย [One Shot] This I Promise You ,, YULSIC : Dek-D.com - Writer

    [One Shot] This I Promise You ,, YULSIC

    อันเก่ายังไม่จบเกิดอารมณ์อยากจะ one shot ฮ่าๆๆๆ

    ผู้เข้าชมรวม

    1,305

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    1.3K

    ความคิดเห็น


    7

    คนติดตาม


    5
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  3 เม.ย. 56 / 21:56 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ยูลสัญญาสิก้า...ยูลสัญญา


    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ร่างสูงที่เพิ่งตื่นจากห้วงนิทราและกำลังปรับสภาพสายตาให้เป็นปรกติต้อนรับรุ่งอรุณของเช้าวันใหม่

       

       

      "นี่มันกี่ปีแล้วนะ...ที่เราไม่ได้เจอกันเลย"

       

      "พอความรักมันจบลง เราก็เป็นได้แค่คนแปลกหน้าต่อกันเท่านั้นเอง"

       

       

      ร่างสูงพึมพำกับตัวเองและยังไม่ได้ขยับกายไปไหนนอกจากนอนนิ่งๆตามองขึ้นกำแพงอยู่แบบนั้น เนื่องจากความฝันเมื่อคืนมันทำให้หมดแรงเสียจนไม่มีแรงที่จะลุกขึ้นสู้กับชีวิตที่เดียวดายแบบนี้อีกต่อไป

       

       

      "คิดถึง....."

       

       

       

      ภาพในอดีตเมื่อครั้งยังเป็นแค่เด็กวัยรุ่นก็ย้อนกลับมาอย่างชัดเจนอีกครั้ง

       

       

      "ยูลคะ...ถ้าสักวันเราต้องเลิกกันไป ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม..ยูลสัญญากับสิก้าได้ไหม..
      ถ้าวันที่พวกเราอายุครบ 30 ปีเมื่อไหร่ แล้วเรายังไม่ได้มีใคร...
      เราสองคนจะไปเจอกันที่ ดูโอโม เหมือนหนังสือที่สิก้าเคยอ่าน"

       

       

      **ดูโอโม เมือฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี มีตำนานเล่าขานไว้ว่า ถ้าคู่รักคู่ใดขึ้นไปดูวิวจากบนยอดดูโอโมแห่งนี้แล้ว
      พวกเขาจะครองรักกันตลอดไป

       

       

      "ทำไมสิก้าพูดแบบนั้นล่ะคะ? สิก้าพูดเหมือนกับว่า...สิก้าไม่อยากอยู่กับยูลตลอดไป"

       


      "โถ...คนเก่งของสิก้า...สิก้าอยากอยู่กับยูลสิคะ...แต่ถ้าวันนึงเรามีความจำเป็นที่จะต้องแยกทางกัน...ยูลจำไว้นะคะว่ามันไม่ใช่เพราะสิก้าไม่รักยูล...ทีนี้ยูลสัญญากับสิก้าได้รึยังคะ?"

       

       

      "อื้อ....ก็ได้ยูลสัญญา วันเกิดครบอายุ 30 ปี ของสิก้า เราจะไปเจอกันที่นั่น"

       

       

       

      ------------------------------------------------------------------------------------------------

       

       

      RrrRrrrrRrrr

       

       

      "สวัสดีค่ะ"

       

       

      "ฮัลโหลยูลหรอ?"

       

       

      "ใช่ค่ะ ยูล นั่นใครหรอ?"

       

       

      "สิก้าเองยูล"

       

       

      เมื่อคนปลายสายบอกว่าตัวเองเป็นใคร ควอน ยูริ ก็แทบจะไม่เชื่อหูตัวเอง

       

      ในเมื่อเสียงปลายสายที่ก็นึกคุ้นอยู่เหมือนกัน จะเป็นผู้หญิงคนที่เขารัก รักมาตลอดจนถึงตอนนี้

       

      จำไม่ได้แล้วว่าไม่ได้ยินเสียงหวานๆนั่นมากี่ปี...น่าจะสักราวๆ 3 - 4 ปี

       

       

       

      "ยูล....สิก้ากำลังจะแต่งงาน"

       

       

      "............"

       

       

      "ฮัลโหลยูล ได้ยินอยู่มั้ย"

       

       

      "...ยินดีด้วยนะสิก้า....."

       

       

       

      และบทสนทนานั่น..ก็ผ่านมาแล้ว 2 ปี นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ร่างสูงได้ยินเสียงหวานๆของคนที่เขารักอย่างสุดหัวใจ

       

      ถึงแม้เขาเอง ด้วยหน้าตา และ หน้าที่การงาน ที่พร้อมสรรพ ทำให้มีคนเข้ามาหาตลอดเวลา ใช่ว่าร่างสูงจะปิดตัวเอง

       

      ผิดถนัด...ร่างสูงพยายามอย่างที่สุดที่จะเปิดหัวใจให้ได้รักใครอีกสักครั้งหนึ่ง...แต่มันก็เหมือนจะเป็นไปไม่ได้เลย...

       

      ในเมื่อผู้หญิงที่เขารักมีอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น จอง  เจสสิก้า

       

       


      ใกล้แล้วสินะวันแห่งพันธะสัญญา….ร่างสูงพาตัวเองออกจากที่นอนนุ่ม ตรงเข้าห้องอาบน้ำไปทันที

      เมื่อจัดการตัวเองเรียบร้อยแล้ว ก็เดินไปหยิบ พาสปอร์ตและตั๋วเครื่องบินที่วางไว้อยู่บนโต๊ะเล็กข้างเตียง

      ลากกระเป๋าเดินทางใบย่อม กดล๊อคประตูคอนโด และมุ่งตรงไปสู่ สนามบิน นานาชาติ อินชอน

       

       

       

       

       

      “อา~~ อากาศหนาวจังแฮะ”

      ร่างสูงบ่นกับตัวเองเมื่อได้สัมผัสอากาศเย็นๆของทวีปยุโรป ที่บ้านเกิดก็ใช่ว่าจะไม่เย็น
      แต่อากาศแบบนี้มันเย็นจนใจชาต่างหาก

      ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามที่ทำให้ ควอน ยูริ เดินทางข้ามทวีปมาถึงที่นี่ สถาปัตยกรรฒต่างๆรอบๆ
      บ่งบอกอารยธรรมที่ยาวนานของยุโรปได้เป็นอย่างดี ตึกรามบ้านช่องที่ดูเหมือนถูกคงสภาพไว้แบบที่เคยเป็น

       

      และแน่นอน...มหาวิหารแห่งนี้  “ดูโอโม แห่งเมือง ฟลอเรนซ์”

       

       

      ร่างสูงก้าวเท้าขึ้นบันไดวนยาวจนไปถึงจุดชมวิวบนยอดของมหาวิหาร สูดอากาศเข้าไปจนเต็มปอด พลางสายตาก็เห็นคู่รักหลายคู่ขึ้นมาชื่นชมทัศนียภาพอันสวยงามนี่เหมือนกัน



      “สวยตามคำร่ำลือจริงๆด้วยสินะ”

       

      ร่างสูงอยากยืนดูวิวนี้กับเธอคนนั้นจริงๆ

       

      “ถ้าสิก้ามายืนอยู่ข้างๆกันตรงนี้...ยูลคงมีความสุขมากนะสิก้า”

       

       

      “แปะๆๆๆๆๆๆ”

       

      สภาพอากาศของฝั่งยุโรปที่เอาแน่เอานอนไม่ได้เลยจริงๆ อยู่ดีๆฝนเม็ดใหญ่ก็ตกลงมาทำให้ร่างสูงต้องย้ายตัวเองเข้าไปหลบอยู่ในซอกทางเดิน

       

      “เฮ้อ....จะมาตกอะไรตอนนี้เนี่ย ฟ้ากลั่นแกล้งกันชัดๆ”

       

       

      ไม่ช้าไม่นานฝนที่ตกก็ค่อยๆจางหายไป...

       

      ควอน ยูริ นำตัวเองออกมาจากซอกที่ทั้งเย็นทั้งชื้นเพราะฝนที่กระหน่ำลงมาเมื่อสักครู่



      “ดีนะที่ตกวันนี้...วันนี้พรุ่งนี้อย่าตกเลยขอร้อง..จะให้ไปบนกับเทพเจ้าองค์ไหนก็ได้...อย่าตกเลยนะฝนจ๋า”

       

       

       

      ใช่...พรุ่งนี้....พรุ่งนี้เป็นวันที่ร่างสูงรอคอยมาถึง 6 ปีเต็ม ถึงแม้ในใจจะรู้ดีว่า ทางฝ่ายเจสสิก้าคงแต่งงานไปแล้วและคงลืมสัญญาที่เคยให้กันไว้

       


      แต่ก็อดหวังไม่ได้ว่าจะเกิดปาฏิหารย์กับคนที่ไม่เคยโชคดีเลยอย่างเขาสักครั้งหนึ่ง...

       

       

      ร่างสูงพาตัวเองลงมาจากบันไดที่ทอดยาว เดินออกมาจากมหาวิหารซึ่งนี่ก็เป็นเวลาเย็นมากแล้ว

       


      “อ๊ะ...ร้านกาแฟนี่...มาอิตาลีทั้งที ต้องลองกาแฟสักหน่อย เดี๋ยวมาไม่ถึง”

       

       

      หลังจากสั่งรายการกาแฟที่ตนอยากจะดื่มเคล้ากับบรรยากาศที่สวยงาม
      แต่ทำให้หัวใจของคนหนึ่งคนเงียบเหงาได้ขนาดนี้เสร็จแล้วก็เดินมาหย่อนก้นที่โต๊ะตัวเล็กๆริมหน้าต่าง....

       

       

      ระหว่างที่มองไปเรื่อยๆ สายตาก็ไปสะดุดกับแผ่นหลังเล็กที่คุ้นเคย...แม้จะไม่ได้เห็นมานานแล้วก็ตามที
      แผ่นหลังที่วันนั้น...ค่อยๆเดินลับจากเขาไปช้าๆ

       

      วันนี้ก็เช่นกัน...แผ่นหลังบางนั่น...ค่อยๆเลือนหายเข้าไปในฝูงชน...



      “สิก้า.........”

       


      ความหวังเริ่มกลับเข้ามาในหัวใจ อย่างน้อยอีกคนก็ไม่ลืมสัญญาที่เคยให้กันไว้...

      ต่อให้ถึงเวลานั้น..หากจะไม่ได้กลับมารักกันเหมือนเดิม...ควอน ยูริ คนนี้ ก็ขอแค่ได้พบหน้าอีกสักครั้ง

      อยากจะบอกความรู้สึกในใจทั้งหมดให้ผู้หญิงที่เขารักได้ฟัง...

       

       

       

      เมื่อวันแห่งสัญญามาถึง ยูริ รีบออกจากโรงแรมแต่เช้าตรู่ตรงไปยังร้านกาแฟร้านเดิมเผื่อว่าจะเจอคนที่เฝ้ารอ....
      หากแต่ก็ไม่เจอ....หลังจากเสร็จกับกาแฟแล้วก็เป็นเวลาที่มหาวิหารเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมได้พอดี

       

      ขายาวๆเดินขึ้นบันไดทีละขั้น ทีละขั้นอย่างเชื่องช้า จุดมุ่งหมายคือ ยอดสูงสุดของมหาวิหาร และ การปรากฎกายของใครหนึ่งคน

       

      ร่างสูงทิ้งตัวเองลงกับพื้นหินอ่อนเย็นวาบ...มองคู่รักคู่แล้วคู่เล่า ฝ่านสายตาไปมา...

       

      แล้วคนที่เขาเฝ้ารออยู่ล่ะ...เธอจะมาไหม...

       

      จำไม่ผิดแน่ๆ หลังของหญิงสาวร่างบางผมทองนั่นต้องเป็นสิก้า

       

      แม้เวลาจะผ่านมาหลายปี ภาพของเจสสิก้าก็ไม่เคยลบเลือนไปจากใจสักวินาที

       

       

      นั่งรออยู่นานจนใกล้ถึงเวลาปิด...

       

      “เมื่อวานคงจะตาฝาดไปเองสินะ เพ้อเจ้อจริงๆเรา คนแบบสิก้าจะมาใส่ใจอะไรกับคำสัญญาเด็กๆแบบนั้น ฟู่ววว”

       

      บ่นเสร็จก็ปล่อยลมหายใจออกมายาวๆ จากที่ตอนแรกไม่ได้คาดหวัง...
      แต่เมื่อเจอแผ่นหลังที่คุ้นตาทำให้ความคาดหวังมันเกิดมากขึ้น

       

      แต่...ปาฏิหารย์ก็ไม่เป็นจริง

       

       

      การรอคอยที่แสนยาวนานจบลงสักที....สัญญาสุดท้ายที่ให้ไว้ก่อนจะแยกทาง....จบสักที...

       

      หัวใจมันชาจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ มือข้างหนึ่งต้องคอยดันกำแพงไว้เพื่อประครองตัวเองลงมาสู่พื้นด้านล่าง

       

       

      “ตุ๊บ”

       

      ร่างสูงชนเข้ากับใครบางคนที่กำลังวิ่งสวนขึ้นมา...

       

      เมื่อเห็นแค่เสี้ยวหน้านั้น...แค่วินาทีนั้น...

       

       

      “สิก้า!

       

      “ย...ยูล”

       

      “สิก้า...สิก้าจริงๆใช่ไหม...ยูลไม่ได้เพ้อไปเองนะสิก้า”



      ร่างบางปรายยิ้มให้ร่างสูง แต่เมื่อสังเกตุเห็นคราบน้ำตาของอีกคน

      ก็อดจะยกมือขึ้นลูบใบหน้าคมที่เธอเคยรักหนักหนาไม่ได้

       


      “เป็นอะไรคะคนเก่งของสิก้า...ร้องไห้ทำไม หืม?”

       


      “ยูล...ไม่คิดว่าสิก้าจะมา...แต่สิก้าก็มา...ขอบคุณนะสิก้า ขอบคุณที่จำสัญญาของเราได้”

       


      ไม่รอช้า และ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ร่างสูงนำริมฝีปากอิ่มของตนทาบกับของร่างบางพอดี

       

       

       รสจูบที่โหยหามานานแสนนาน.....

       


      “คิดถึง....” ร่างสูงพูดพลางสบตาอีกคนตรงหน้า



      “สิก้าก็คิดถึงยูล”

       

       

      คนเคยรักทั้ง 2 คน เดินคล้องแขนกันกระหนุงกระหนิงไปตลอดระหว่างทางกลับโรงแรมของร่างสูง

       

      คนรักที่จากกันไปนานแสนนาน...วันนี้ทั้งคู่ได้กลับมาพบเจอกันอีกครั้ง...ในสถานที่แห่งพันธะสัญญา...

       

       

      รู้หรือเปล่า...จริงๆแล้ว...ปาฏิหารย์ไม่ได้เกิดขึ้น....

       

       

       

      แสงแดดที่ส่องเข้ามาทางหน้าต่างเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า ถึงเวลาที่จะต้องตื่นมารับอรุณใหม่แล้ว

      ร่างสูงที่นอนอยู่ใต้ผ้าห่มนุ่ม..ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีเสื้อผ้าติดแม้แต่สักชิ้นเดียว..

      ถึงจะไม่บอกก็คงจะเดาได้ไม่ยากว่าเมื่อคืน...หลังจากที่กลับมาถึงโรงแรมแล้ว...

      อดีตคนรักทั้ง
      2 จะคุยกันไปถึงไหนต่อไหน...

       

       

      พลางได้สติก็ควานหาคนที่นอนกอดอยู่เมื่อคืนก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทรา...

      มือเรียวยาวค้นพบแต่ความว่างเปล่า จึงพยายามฝืนลืมตาขึ้นมาดูก็พบว่า ร่างบางที่โหยหานั้นหาได้อยู่ข้างกาย

      ในใจก็นึกว่าเธอคงลุกไปเข้าห้องน้ำกระมัง....

       


      ดันตัวเองออกจากเตียงพร้อมเดินตรงไปยังห้องน้ำ...แต่กลับ..ว่างเปล่า...


      สิ่งที่พอจะทำให้มีรอยยิ้มอยู่ได้บ้างคือ ตัวอักษรสีแดงตัวใหญ่ เขีนด้วยลิปสติกว่า “ I LOVE YUL ”

       


      “คงจะออกไปหากาแฟกินล่ะมั้ง...”



      มันเป็นแบบนี้ทุกทีที่เจสสิก้าตื่นก่อน...เธอจะหลับมาพร้อมกาแฟหอมกรุ่นเพื่อปลุกร่างสูงของเขาให้ลุกจากเตียง...

      เดินคิดไปมาอยู่สักพัก....พลันก็เหลือบไปเห็นกระดาษแผ่นหนึ่งวางอยู่ตรงโต๊ะหัวเตียง..

      ด้านบนกระดาษที่พับไว้มีรอยลิปสติกสีเดียวกับบนกระจกห้องน้ำประทับอยู่...

       

       

      ร่างสูงอดยิ้มไม่ได้กับความขี้เล่นของอดีตคนรัก เธอคงจะทิ้งโน้ตบอกว่า เดี๋ยวจะกลับมาพร้อมกาแฟอุ่นๆสินะ

      พลางก็รีบคลี่กระดาษนั้นออกอย่างรวดเร็ว...


       

       

       

       

       

       

       

      “ยูลคะ....สิก้าไม่เคยเลิกรักยูล....แต่ตอนนี้...สิก้าต้องกลับไปหาคนของสิก้า...ยูลยังจำได้ไหม...ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น...มันไม่ใช่เพราะสิก้าไม่รักยูล...สิก้ารักยูลเสมอ ตลอดมา และ ตลอดไป”

       

       

       

      THE END

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×